เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนสำหรับคนมี ลูก และมีบ้าน ที่จะต้องทำความสะอาดบ้านกันเป็นประจำ เพื่อปกป้องเจ้าตัวเล็กจากสิ่งสกปรก และฝุ่นละอองต่างๆ
โดยเฉพาะในป่าคอนกรีตอย่างกรุงเทพฯ ที่เกิดฝุ่นได้ง่ายมาก เพียงชั่วข้ามคืน ฝุ่นต่างๆ ก็พร้อมจะเข้ามาจับจองพื้นที่ในบ้านกันใหม่แล้ว
โดยเฉพาะในป่าคอนกรีตอย่างกรุงเทพฯ ที่เกิดฝุ่นได้ง่ายมาก เพียงชั่วข้ามคืน ฝุ่นต่างๆ ก็พร้อมจะเข้ามาจับจองพื้นที่ในบ้านกันใหม่แล้ว
อย่างไรก็ดี สำหรับครอบครัวที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และเป็นพ่อแม่ที่รักสะอาดมากๆ อาจมองหาผลิตภัณฑ์กำจัดเชื้อโรคที่มีฤทธิ์รุนแรง มาช่วยฆ่าเชื้อโรคให้ แต่จากการวิจัยแล้วพบว่า น้ำสะอาดเปล่าๆ น่าจะเป็นทางเลือกในการทำความสะอาดฝุ่นละอองที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่มีเด็ก เล็กอยู่ในบ้าน
"การทำความสะอาดบ้านเป็นตัวการหลักอีกตัวหนึ่ง ในการทำให้เด็กได้รับสารพิษ เช่น ตะกั่ว ซึ่งแม้จะเป็นระดับที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็อันตรายต่อการพัฒนาสมองในเด็กอยู่ดี" ศาสตราจารย์ Bruce Lanphear จากมหาวิทยาลัย Simon Fraser ประเทศแคนาดากล่าว
นักวิจัยจากแคนาดาเผยด้วยว่า ในเด็กทารก สามารถรับเอาสารพิษเหล่านี้เข้าไปได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ใหญ่จะรับสารพิษเข้าไปเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เมื่อ รวมกับพฤติกรรมการชอบเอาของเข้าปาก หรือเอามือตนเองไปจับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แล้วเอาเข้าปากของเด็กๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมการเรียนรู้ในเด็กเล็กแล้ว สิ่งเหล่านี้ยิ่งน่าเป็นห่วงว่า การใช้สารเคมีทำความสะอาดบ้านจะยิ่งทำอันตรายต่อครอบครัวที่มีเด็กๆ มากขึ้น
ทางทีมวิจัยยังได้กล่าวว่า การใช้สารเคมีต่างๆ ในบ้านยังมีความเชื่อมโยงกับกระบวนการการเรียนรู้ และความผิดปกติต่างๆ ในร่างกาย การเกิดภาวะภูมิแพ้ มะเร็ง อีกด้วย พวกเขาลงความเห็นว่า ในสตรีมีครรภ์ และเด็กควรอยู่ให้ห่างจากห้องที่กำลังตกแต่งใหม่ หรือบ้านที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่น และสารพิษ กลิ่นสี กาว ที่ใช้ในการปรับปรุงบ้าน โดยระบุว่าช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือช่วงที่กำลังตั้งครรภ์นั่นเอง
คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์เหล่านี้ก็คือ พยายามลดความเสี่ยงต่างๆ ให้มากที่สุดเพื่อตัวลูกน้อย เช่นการทำความสะอาดบ้านโดยใช้สารเคมีให้น้อยที่สุดซึ่งไม่เพียงแต่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว หากยังประหยัดเงินได้ดีอีกด้วย
รักจะมีลูกก็ต้องรักทำงานบ้าน แต่ถ้าบ้านสะอาดจนลูกรักสมองป่วยแล้วล่ะก็ หันมาใช้น้ำสะอาดเปล่าๆ ก็ท่าจะดีค่ะ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ASTV ผู้จัดการ